วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คนเป็นสิว อยากรักษาสิว แบบฉบับ Pantip ต้องอ่าน ปฏิบัติ!




ที่มา:kondoodee
ในปัจจุบันเพียงแค่ค้นหาวิธีการรักษาสิวจากในอินเตอร์เน็ต เพียงคลิ๊กเดียวก็จะมีคำแนะนำถึง วิธีรักษาสิว ปรากฏขึ้นมาเป็นจำนวนมากให้คุณสาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องสิว ได้นำไปปรับใช้กับตัวเอง แต่คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า สำหรับวิธีการรักษาสิวที่ได้รับความนิยมและมีความน่าเชื่อถือ กูรูผู้มีความรู้ในการรักษาสิวขั้นเทพ พร้อมกับมีคำยืนยันจากผู้ที่นำไปทดลองรักษาสิวมาก่อน และได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพอย่างกว้างขวาง คงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากในเว็บไซต์ Pantip.com ที่เป็นแหล่งชุมนุมของคุณสาวๆ ผู้รักสวยรักงาม

สำหรับในวันนี้ จะขอพาไปรู้จักกับการรักษาสิวในแบบฉบับของ Pantip ที่ได้ทำการรวบรวมมา ว่ากูรูในพันทิป เขามีวิธีการรักษาสิวกันอย่างไรกันบ้าง… 


การป้องกันสิวไม่ให้เกิดขึ้นอย่างง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง


ถ้าหากคุณสาวๆ ไม่อยากเป็นสิว โปรดงดพฤติกรรม และปฏิบัติตามข้อแนะนำ ดังต่อไปนี้

1. ห้ามแต่งหน้าแล้วล้างหน้าโดยไม่ใช้คลีนชิ่ง การล้างเครื่องสำอางโดยน้ำเปล่า ยังทำให้ยังหลงเหลือคราบเครื่องสำอางอยู่ตามรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน สิวบุก สิวผด

2. การไม่ล้างหน้าก่อนนอน และการไม่อาบน้ำก่อนนอน จะส่งผลให้เกิดสิวขึ้นที่ใบหน้าและหลัง

3. ควบคุมเรื่องอาหารการกิน อาหารต้องห้ามสำหรับคนที่เป็นสิว ได้แก่ อาหารรสจัด ของหวาน ของมัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเล ซึ่งควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ อย่ารับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เพราะอาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้น

4. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ การดื่มน้ำสะอาดในจำนวนที่เพียงพอต่อความร่างกายในแต่ละวัน จะเป็นการช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย และช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย

5. ทำความสะอาดผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน อยู่เป็นประจำทุกสัปดาห์ เพราะเป็นสิ่งที่สัมผัสกับใบหน้า และร่างกายของเราเป็นเวลานานมากที่สุดในแต่ละวัน

6. การเติมแป้งในระหว่างวัน โดยการใช้พัฟฟ์ที่สกปรก หรือไม่เคยทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้น

7. พยายามอย่ารบกวนผิวหน้า เช่น การบีบ กดสิว ขัดนวดใบหน้า เช็ดถูอย่างรุนแรง หรือบ่อยจนเกินไป เมื่อทำการล้างหน้าด้วยใช้ผ้าขนหนูซับใบหน้าเบาๆ ซึ่งจะอ่อนโยนกับผิวหน้ามากกว่า และการรักษาสิวโดยการขัดหน้านั้น มีข้อเสียคือจะทำให้หน้ามีความบางลงเรื่อยๆ เมื่อถูกแสงแดดจะเกิดอันตรายและยังเสี่ยงต่อการเกิดกระ หรือฝ้าได้ง่ายอีกด้วย
 


8. พักผ่อนให้เพียงพอ และควรนอนก่อน 5 ทุ่ม ยิ่งนอนดึกมากเท่าไหร่ สิวก็จะยิ่งมีจำนวนมากขึ้นเท่านั้น

9. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว คนเราจะมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ถ้าหากคนที่มีผิวมันเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ใบหน้าก็จะยิ่งมีความมันที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้สิวมากขึ้นตามไปด้วย

10. หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่อาจก่อให้เกิดสิว โดยเลือกใช้เครื่องสำอางแบบที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Noncomedogenic) หรือแบบที่ไม่มีไขมัน (Oil-Free) ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดสิวได้

11. อย่าใช้มือสกปรกไปจับหน้า และอย่าลืมล้างมือก่อนล้างหน้าทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเรากำลังนำน้ำล้างมือมาล้างหน้าเป็นการเพิ่มความสกปรกให้กับใบหน้าโดยไม่ทันรู้ตัว

12. รักษาความสะอาดของร่างกาย ใบหน้า เส้นผม อย่าปล่อยให้ใบหน้าสกปรกจนมีไขมันอุดตันอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ห้ามทำการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นในทันที เพราะจะทำให้รูขุมขนปิดตัวลงโดยที่สิ่งสกปรกยังคงอุดตันอยู่ที่รูขุมขน ดังนั้นควรที่จะใช้ผ้าเช็ดสิ่งสกปรกบนใบหน้าออกก่อน แล้วจึงล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด 

13. อย่าล้างหน้าบ่อยจนเกินไป การล้างหน้าจนแห้ง รูขุมขนจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวหนังมาก จนอาจทำให้ยิ่งเกิดการอุดตันของรู้ขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวมากยิ่งขึ้น

14. อย่าแต่งหน้าเกินวันละ 10 ชั่วโมง ต่อวัน เพราะยิ่งพอกเครื่องสำอางเอาไว้บนหน้านานเท่าไหร่ รูขุมขนก็จะถูกอุดตันมากเท่านั้น ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องสิวตามมา

15. ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ควรระวังอย่าทานอาหารทะเลติดต่อกันทุกวัน เป็นที่ทราบกันดีว่าการทานอาหารทะเลจำนวนมากจะกระตุ้นให้เกิดสิว แต่ถ้าหากกินในปริมาณปกติเพียงเล็กน้อย ร่างกายก็จะยังสามารถขับออกได้ทัน

16. พยายามขับถ่ายทุกวัน การปลดถ่ายหนักช่วยขับกากของเสียออกจากร่างกาย สำหรับคนที่มีปัญหาท้องผูกทำให้ไม่ค่อยสามารถขับถ่ายได้นั้น ให้ลองเปลี่ยนมาทานอาหารประเภทผักและผลไม้ ที่มีใยอาหารมากๆ ซึ่งจะมีผลช่วยให้ร่างกายมีการขับถ่ายที่ดีขึ้น

17. กำจัดความเครียด ถ้าหากสิวขึ้น แนะนำว่าให้ยิ้มสู้ เพราะยิ่งเครียดมากเท่าไหร่ สิวก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว 

หลังจากที่ได้รู้ถึงพฤติกรรมที่ควรและไม่ควรปฏิบัติ เพื่อช่วยในการป้องกันรักษาให้ใบหน้าปราศจากสิวกันแล้ว ต่อไปมารู้จักกับ วิธีการรักษาสิว Pantip สำหรับคุณสาวๆ ที่เกิดปัญหาเรื่องสิวขึ้นมาบนหน้าแล้วกันบ้าง

การดูแลผิวไม่ใช่เรื่องยากหากเรารู้วิธี และหวังว่าเคล็ดลับหน้าใสไร้สิวนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆบ้างนะคะชอบบทความนี้ กด Like หน้า FanPage ให้ด้วยนะจ๊ะ Thank U.

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทริคการมาสก์หน้า ให้ได้ประโยชน์แบบเต็มแม็กซ์


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         การมาส์กหน้า วิธีบำรุงผิวที่ผู้หญิงหลายคนโปรดปราน เพราะทำได้ง่ายและทำได้ด้วยตัวเอง ที่สำคัญผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าต่าง ๆ ก็มีราคาไม่แพง แถมยังมีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิวของคุณด้วย แต่เชื่อว่าน้อยคนนัก ที่จะมาส์กหน้าได้อย่างคุ้มค่าและเห็นผลจริง ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำทริคการมาส์กหน้าให้ได้ประโยชน์แบบเต็มแม็กซ์มาฝากสาว ๆ ผู้ชื่นชอบการบำรุงผิวด้วยการมาส์กทุกคนแล้วค่ะ 
ล้างหน้าก่อนมาสก์
         ก่อนการมาสก์หน้าด้วยครีมมาสก์หรือมาสก์ชีททุกครั้ง ให้ล้างหน้าให้สะอาดก่อน เพราะใบหน้าที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและความมัน จะคอยกีดขวางไม่ให้สารบำรุงและวิตามินดี ๆ ในมาสก์ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ หากไม่ล้างหน้าให้สะอาดก่อน ก็เหมือนกับการเสียเงินซื้อมาสก์มาบำรุง แต่ใบหน้าไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยน่ะสิ

อ่านคำแนะนำก่อนใช้
         แน่นอนอยู่แล้วล่ะว่า มาสก์แต่ละชนิดและสูตรก็มีความแตกต่างกันออกไป หากคุณไม่ลองอ่านคำแนะนำที่ติดไว้อยู่บนห่อผลิตภัณฑ์ แล้วคุณก็มาสก์โดยกะเวลาอย่างที่เคยทำมาตลอด ไม่แน่หรอกว่า คุณอาจจะไม่ได้รับสารบำรุงและวิตามินในมาสก์ได้อย่างเพียงพอ ทางที่ดีเสียเวลามาอ่านคำแนะนำก่อนใช้สักนิด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีสุด ๆ ต่อผิวหน้าคุณยังไงล่ะ

ทดลองที่แขนก่อนใช้

         สาว ๆ คนไหนที่ผิวระคายเคืองแพ้ง่าย ก็อย่าเสี่ยงเอามาสก์ไปโปะไว้บนหน้าโดยที่ยังไม่ได้ทดสอบการระคายเคืองเลยดีกว่า ยอมเสียเวลาเอามาสก์มาทาที่ท้องแขนก่อนใช้จริงกับหน้า หากเวลาผ่านสักพักแล้วไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น ก็มั่นใจได้เลยว่าใบหน้าคุณจะไม่เกิดอาการแพ้แน่นอน ส่วนมาสก์ชีทก็ให้นำสารบำรุงเนื้อเหลว ๆ ในซองมาสก์มาลูบไล้ใต้ท้องแขนดู 

หลีกเลี่ยงรอบดวงตา

         รู้หรือไม่ว่า ตรงส่วนผิวหนังรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางมากสุด ๆ ฉะนั้นเวลามาสก์หน้าด้วยครีมมาสก์ต่าง ๆ ก็ควรจะเว้นรอบดวงตาเอาไว้ ส่วนถ้าเป็นมาสก์ชีท แบบนั้นก็จะเว้นช่วงรอบดวงตามาให้พร้อมแล้วล่ะ 

ให้เวลากับการมาสก์หน้า

         เวลามาสก์หน้าแต่ละครั้ง ก็ควรจะทำตอนที่มีเวลาอยู่บ้านเยอะ ๆ ในระหว่างมาสก์ก็อาจจะนั่งดูทีวีหรือเล่นอินเตอร์เน็ตไปพลาง ๆ เพื่อรอเวลาที่จะล้างมาสก์ออก แต่ไม่ควรจะพูดเยอะไม่งั้นมาสก์ก็อาจจะเคลื่อนแล้วต้องคอยจับมาวางไว้จุดเดิมเรื่อย ๆ ที่สำคัญอย่ารอจนกว่ามาสก์จะแห้งติดหน้าจนเป็นแผ่น ๆ ไม่งั้นก็อาจจะทำให้หน้าคุณระคายเคืองได้นะคะ ทางที่ดีควรอ่านคำแนะนำว่าควรมาสก์นานเท่าไร ก็ทำตามนั้นจะดีที่สุด

มาสก์ให้สม่ำเสมอทั่วหน้า
         เมื่อทาครีมมาสก์แต่ละที ก็ควรจะเช็กดูให้ดีกว่าคุณทาทั่วใบหน้าอย่างสม่ำเสมอกันดีหรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้นตรงส่วนที่ไม่ได้ทาครีมมาสก์ก็อาจไม่ได้รับการบำรุงและดูไม่สม่ำเสมอกับผิวส่วนอื่น ๆ เลย ส่วนมาสก์ชีท ให้เช็กดูว่าคุณวางให้มาสก์ชีทครอบคลุมทั่วหน้าดีหรือไม่ เพราะบางทีตรงส่วนจมูกและปากมักจะเผยอออกมาเล็กน้อย

ล้างออกด้วยน้ำที่เหมาะสม

         หลังจากนำมาสก์ชีทออกหรือต้องล้างครีมมาสก์บนหน้าออก บางสูตรก็บอกให้ใช้น้ำอุ่นบางสูตรก็บอกให้ใช้น้ำเย็นล้าง ซึ่งคุณควรจะอ่านคำแนะนำที่ฉลากก่อนล้าง ว่าควรจะใช้น้ำแบบไหนล้างมาสก์สูตรนี้ หลังจากล้างเสร็จแล้วก็ให้ใช้ผ้าขนหนูซับเบา ๆ อย่าเช็ดถูแรง 

นวดให้สารบำรุงเข้าสู่ผิว

         เชื่อว่าวิธีนี้สาว ๆ หลายคนไม่ค่อยได้ทำกันสักเท่าไร เวลาที่คุณใช้มาสก์ชีทมาสก์หน้าเสร็จแล้ว ให้หยิบมาส์ทชีทออกแล้วอย่าเพิ่งล้าง ให้ใช้นิ้วนวดสารบำรุงผิวที่เปียกอยู่บนหน้า เพื่อให้ซึมซับเข้าผิวได้มากขึ้น วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณใช้มาสก์ได้อย่างคุ้มค่า แถมใบหน้ายังได้รับสารบำรุงเต็ม ๆ 

เก็บรักษาให้ดี

         เมื่อซื้อมาสก์ชีทมาใช้ ให้เก็บไว้ให้ดีอย่าให้โดนความร้อน ซึ่งอาจจะเก็บไว้ในตู้เย็นเผื่อเวลาหยิบมามาสก์จะได้สดชื่นขึ้นหรือเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องธรรมดา เพื่อให้คุณภาพของมาสก์ยังคงเดิมก็ได้ ส่วนครีมมาสก์ควรเก็บไว้อย่าให้โดนแสงหรือความร้อน และไม่ควรเก็บไว้ในห้องน้ำ เพราะเวลาที่คุณอาบน้ำอุ่น ภายในห้องน้ำก็จะร้อนขึ้น จนอาจทำให้คุณภาพของมาสก์ลดลง

         เห็นไหมล่ะคะว่า การมาสก์หน้าไม่ใช่เพียงแค่การนำสารบำรุงมาโปะไว้บนหน้า แล้วก็จะเห็นผลได้ทันใจเลย แต่การมาสก์หน้าให้ได้ผลและคุ้มค่า ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองด้วย ลองยอมใช้เวลากับการมาสก์หน้าสักหน่อย รับรองว่าผิวหน้าสวย ๆ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนจ้า


การดูแลผิวไม่ใช่เรื่องยากหากเรารู้วิธี และหวังว่าเคล็ดลับหน้าใสไร้สิวนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆบ้างนะคะชอบบทความนี้ กด Like หน้า FanPage ให้ด้วยนะจ๊ะ Thank U.

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ACNIX MASK มาร์คลดสิว ขาวชิลๆ สิวกระเจิง

Acnix Anti-acne whitening mask 
มาร์ค แอคนิก แอนตี้ แอคเน่ ไวท์เทนนิคมาร์ค

"ขาวชิลๆ สิวกระเจิง"


Acnix mask มาร์คลดสิว
เพิ่มปรับผิวขาว สูตรเยี่ยม Mask สิว ที่กำลังฮิตที่สุด
Acnix mask มาร์คลดสิว
มิติใหม่แห่งนวัตกรรมการบำรุงผิวหน้าด้วยเทคโนโลยี Encapsulation
บรรจุอยู่ในLiposomeขนาดระดับนาโนเมตรจากธารน้ำแข็งที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขา แอลป์วาเลส์ ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่ถูกกักเก็บไว้ที่ความสูง 2,400 เมตร
อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นต่อเซลล์ผิว ผสานอนุพันธ์ จาก Menthol ทาให้ผิวชุ่มชื่นถึงขีดสุด ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังที่เกิดจากสิว
ลดรอยสิวให้ดูจางลงเทียบเท่าได้กับการรักษา โดยไม่ก่อให้เกิดการแพ้ และการระคายเคืองเผยให้เห็นผิวขาวกระจ่างใสแลดูกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รายละเอียด
Acnix Anti-Acne Whitening Mask ขนาดบรรจุ 15 กรัม เลขที่จดแจ้ง 10-1-5716664
Acnix mask มาร์คลดสิว มาร์คสิวโดยเฉพาะ แก้ปัญหาสิวได้ตรงจุด เหมาะสำหรับคนแพ้ง่าย เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เป็นนวัตกรรมจากญี่ปุ่น ที่ได้ยอมรับจากทั่วโลก ผ่าน อย.ไทย Acnix mask มาร์คลดสิวปลอดภัยแน่นอน "ขาวชิลชิล สิวกระเจิง"เป็นมาร์คสิวโดยตรง แก้ปัญหาสิวตรงจุดลดการเกิดสิวใหม่ Acnix mask มาร์คลดสิว
ลดการอักเสบของสิวเดิมปรับสีผิวให้ขาวอย่างเป็นธรรมชาติสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่แพ้หรือระคางเคืองผ่าน อย. ปลอดภัยแน่นอนเป็นเวชสำอางค์ที่แพทย์และโรงพยาบาลชั้นนำเลือกใช้ Acnix mask มาร์คลดสิว
Acnix anti-acne whitening mask มาร์คลดสิว เพิ่มปรับผิวขาว สูตรเยี่ยม มาร์คลดสิว ที่กำลังฮิตที่สุด Acnix ขาวชิลๆสิวกระเจิง**เวชสำอางที่โรงพยาบาลและคลีนิกชั้นนำแนะนำ
Acnix mask มาร์คลดสิว แก้ปัญหาสิวที่ต้นเหตุ Acnix mask มาร์คลดสิว
ปรับผิวให้ขาวใส ดุจหิมะ Acnix mask มาร์คลดสิว ผลัดเซลผิวบริเวณที่เป็นสิว
Acnix mask มาร์คลดสิว ละลายไขมันในรูขุมขนที่อุดตัน Acnix mask มาร์คลดสิว
ปรับผิวกระจ่างใสภายในข้ามคืน

วิธีใช้ Acnic anti-acne whitening mask มาร์คลดสิว
ทา Acnix mask มาร์คลดสิว ทั่วใบหน้าก่อนเข้านอน ทิ้งไว้ 1 คืน โดยไม่ต้องล้างออก สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
คุณสมบัติของ ACNIX anti-acne whitening mask
Acnix anti-acne whitening mask มาร์คลดสิว เพิ่มปรับผิวขาว สูตรเยี่ยม
Mask สิว ที่กำลังฮิตที่สุด Acnix ขาวชิลๆสิวกระเจิง
เวชสำอางที่โรงพยาบาลและคลีนิกชั้นนำแนะนำ
ขาวชิลๆสิวกระเจิง เวชสำอางที่โรงพยาบาลและคลีนิกชั้นนำแนะนำ
- Acnix mask มาร์คลดสิว ช่วยแก้ปัญหาสิวที่ต้นเหตุ
- Acnix mask มาร์คลดสิว ปรับผิวให้ขาวใส ดุจหิมะ
- Acnix mask มาร์คลดสิว ผลัดเซลผิวบริเวณที่เป็นสิว
- Acnix mask มาร์คลดสิว ละลายไขมันในรูขุมขนที่อุดตัน
- Acnix mask มาร์คลดสิว ปรับผิวกระจ่างใสภายในข้ามคืน

เสียงจากผู้ใช้จริง
































แวะเข้ามาหาเราได้ที่ https://www.facebook.com/acnix.officemask

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เตรียมผิวก่อนและหลัง มาร์คหน้า



⊹ มาร์คหน้าให้ผิวนุ่ ม ( นิ่ ม )  ! ⊹

(หนึ่ง.) ควรจะทำความสะอาดผิดหน้าให้สะอาดหมดจดด้วยคลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิวหรือน้ำเปล่าที่สะอาด 

(สอง.) ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นๆมาวางบนใบหน้า ความร้อนจากผ้าขนหนูจะช่วยให้ส่วนผสมของมาร์คซึมซับสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น

(สาม.) คราวนี้ทำการมาร์คหน้าคุณได้เลย! ....ตามสูตรตามสไตล์... ตามใจคุณผู้หญิงทั้งหลาย ตามชอบใจโดยเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก แล้วทิ้งไว้ 5- 10 นาที

(สี่.) เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วก็ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว

(ห้า.) จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง (เย็นพอเหมาะนะคะ ไม่ต้องถึงขนาดเอาน้ำแข็งมาละลายน้ำ) มันจะช่วยกระชับรูขุมขนและทำให้ผิวสดชื่นขึ้น ;D

(หก.) เช็ดด้วยผ้าแห้งนุ่มๆแบบวิธีซับเอานะ อย่าเช็ดผากๆเหมือนเช็ดตัวไม่ดี

(เจ็ด.) ที่นี้ก็ตามด้วยครีมบำรุงผิวที่คุณมีค่ะ

- - - - -แนะนำใช้ มาร์คลดสิว AcnixMask- - - - - -
...อ้างอิง http://sz4m.com/b2225743

การดูแลผิวไม่ใช่เรื่องยากหากเรารู้วิธี และหวังว่าเคล็ดลับหน้าใสไร้สิวนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆบ้างนะคะชอบบทความนี้ กด Like หน้า FanPage ให้ด้วยนะจ๊ะ Thank U.

วิธีดูแลผิวให้พ้นสิว

ใครบ้างไม่อยากเป็นผู้หญิงหน้าใส ผู้ชายหน้าหล่อ การที่ใบหน้าของเรามีสิวเข้ามาเกี่ยวข้องถึงกับทำให้บางคนหมดความมั่นใจไปเลยก็มี เคล็ดลับหน้าใสไร้สิวของเราในวันนี้ จะมาแนะนำให้เพื่อนๆดูแลผิวหน้าให้พ้นสิวอย่างถูกวิธีกัน
ที่มา:วิธีการรักษาสิว

วิธีดูแลผิวให้พ้นสิว
     ประเภทของผิวที่ก่อให้เกิดปัญหาสิวได้ง่ายก็คือ ผิวมัน และผิวผสม เพื่อนๆต้องตรวจสอบผิวหน้าของแต่ละคนเสียก่อนว่า มีผิวแบบไหน เพื่อการดูแลที่ถูกต้องยังไงล่ะ
     1. ผิวมัน หากใครมีผิวที่จัดอยู่ในประเภทผิวมันยิ่งต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ผิวมันเกิดจากต่อมไขมันทำงานมากเกินปกติ ที่สำคัญคนผิวมันมักมีรูขุมขนที่กว้าง จึงง่ายที่จะเกิดการอุดตันของสิ่งสกปรก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวมันควรจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถควบคุมความมันได้ โดยเน้นคำว่า oil free หรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ เช่น ครีมล้างหน้ามะขาม สบู่ขิง เป็นต้น
     2. ผิวผสม คนที่มีผิวที่จัดอยู่ในประเภทผิวผสม จะดูเหมือนคนเรื่องมากกว่าคนอื่น เพราะในหนึ่งใบหน้าจะมีประเภทผิวอยู่สองประเภทคือ ผิวบริเวณทีโซนจะมัน (บริเวณหน้าผาก จมูกและคาง) แต่ผิวบริเวณแก้มทั้งสองข้างจะแห้ง ซึ่งลักษณะผิวหน้าแบบนี้ หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิว จะทำให้บริเวณหน้าผาก และจมูก เกิดสิวได้ง่ายมาก ผู้ที่มีลักษณะของผิวผสมนี้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวผสมโดยเฉพาะ แต่หากจะให้ดีควรเลือกและใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะจุดดีกว่า เช่น บริเวณทีโซน ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมัน และสำหรับบริเวณแก้มทั้งสองข้าง ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้ง แบบนี้จะดีกว่า

.............. แนะนำ มาร์คลดสิว Acnix Mask ...............
     การดูแลผิวไม่ใช่เรื่องยากหากเรารู้วิธี และหวังว่าเคล็ดลับหน้าใสไร้สิวนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆบ้างนะคะชอบบทความนี้ กด Like หน้า FanPage ให้ด้วยนะจ๊ะ Thank U.

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับการบำรุงผิวด้วยแอปเปิ้ล

ผักและผลไม้มีสารอาหาร เกลือแร่และวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอปเปิ้ลชาวตะวันตกมีความเชื่อว่า แอปเปิ้ลเป็นผลไม้อายุวัฒนะ ถ้าหากว่าเรารับประทานวันละ 1 ผลจะทำให้คุณมีสุขภาพดีไม่ต้องไปหาหมอรักษาโรคและสำหรับผู้หญิงเราถ้าทานแอปเปิ้ลเป็นประจำจะช่วยบำรุงผิวให้สวย ขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากการรับประทานแอปเปิ้ลเพื่ออายุยืนยาวแล้ว เรายังมีเคล็ดลับการบำรุงผิวด้วยผลแอปเปิ้ลมาฝากเหล่าสมาชิกทุกท่านดังนี้นะคะ
ที่มา:KAPOOK


1.เคล็ดลับการบำรุงผิวที่หม่นหมอง ถ้าหากว่าคุณอยากทำให้ผิวที่ดูอ่อนโรยกลับมาดูสดชื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว คุณลองนวดใบหน้าและลำคอด้วยเนื้อแอปเปิ้ลสดที่บดละเอียดแล้วสิคะ


2.เคล็ดลับการบำรุงผิวหน้าที่อ่อนล้า คุณควรพอกหน้าด้วยแอปเปิ้ลอบหรือต้มบดละเอียดผสมกับน้ำมันมะกอกและน้ำผึ้งหนึ่งช้อนชาเพื่อทำให้ผิวยึดหยุ่นและชะลอกระบวนการร่วงโรยของผิวหน้า


3.สำหรับบำรุงผิวแบบธรรมดา เพียงแค่คุณปอกเปลือกแอปเปิ้ลแล้วนำไปบดให้ละเอียด และผสมกับครีมเปรี้ยว น้ำมันมะกอก (หรือหากไม่มีสามารถใช้น้ำมันข้าวโพดหรือน้ำมันเมล็ดทานตะวันแทนได้)เพียง 1ช้อนชา และแป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา แล้วทาลงบนใบหน้าและทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น


4.สูตรความงามจากแอปเปิ้ลเพื่อฟื้นบำรุงผิวมือที่หยาบกร้าน เราใช้แอปเปิ้ลสดปอกเปลือกแล้วนำมานวดที่มือลงสักประมาณ 2-3 นาที จากนั้น ล้างมือและทาครีมให้ความชุ่มชิ้นแก่ผิว


5.สูตรความงามจากแอปเปิ้ลเพื่อฟื้นบำรุงผิวส้นเท้าแตก คุณทำได้ง่ายๆเพียงหั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ต้มในนมจนเป็นส่วนผสมข้นๆ แล้วทาส่วนผสมลงบนส้นเท้าแล้วปิดทับด้วยทิชชูทิ้งไว้ 30นาที ก่อนล้างออก ส้นเท้าจะนุ่มและชุ่มชื้นมากขึ้น



   ถ้าหากว่าคุณอยากมีสุขภาพร่างกายและผิวที่สวยกระจ่างใสก็ควรจะลองหาแอปเปิ้ลมาลองทำตามเคล็ดลับที่เราได้นำมาฝากกันนะคะ รวมถึงการรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ ออกกำลังอาทิตย์ละ 3 วัน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและไม่เครียดกับชีวิตนะคะ เราเชื่อว่าคุณจะมีสุขภาพดีและสวยสมวัยตลอดไปนะคะ

ชอบบทความนี้ กด Like หน้า FanPage ให้ด้วยนะจ๊ะ Thank U.

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ผิวแพ้ง่ายมาทางนี้ พก 8 วิธีไว้ชนะด่วน

อยากจะชนะกับเขาบ้าง แต่กับเครื่องสำอางหน้าตาดีๆ น่าใช้ กลับแพ้หมดท่าทุกที เป็นบ่อยๆ อย่างนี้ เคนลองสังเกตไหมว่าเกิดจากอะไร และทำยังไง ผิวเราจึงจะแข็งแรงขึ้นได้บ้าง

ผลิตเครื่องสำอางทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นสูตรเคมีแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือจะเป็นสูตรธรรมชาติแบบเต็มร้อย ก็สามารถทำให้ผิวคนเราแพ้ได้ทั้งนั้น เพราะผิวเราแต่ละคน มีปฏิกิริยาต่อสารแต่ละตัวไม่เหมือนกัน และสามารถแพ้ได้แม้สิ่งที่อ่อนโยนที่สุด ยิ่งคนที่ผิวแพ้ง่ายด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะไม่เพียงจะเสี่ยงมากกว่าเท่านั้น แต่หากภูมิต้านทางร่างกายอ่อนแอ ผิวก็ยิ่งทวีความแพ้เข้าไปมาขึ้นด้วย
ทำไม ถึงเอาแต่แพ้
การแพ้เครื่องสำอางมีสองรูปแบบใหญ่ๆ นั่นคือการแพ้สารเฉพาะแบบทั่วไป ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกคนจนทำให้เกิดการระคายเคือง และคนที่มีอาการแพ้ต่อเครื่องสำอางเนื่องจากธรรมชาติของร่างกายมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง
แพ้จนระคายเคือง เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะคนที่มีผิวปกติ แต่ใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีคุณภาพ มีสารอันตรายสูง หรือมีความเป็นกรดสูง เป็นต้น จนทำให้ผิวระคายเคือง เกิดการคัน เกิดผื่นแดง จนบานปลายเป็นสิวฝ้าหรือแพ้รุนแรงได้ ทางที่ดีควรเลือกเครื่องสำอางที่ผลิตได้มาตรฐานและระมัดระวังผิวที่บอบบางอย่างผิวรอบดวงตา เป็นต้น
แพ้เพราะผิวแพ้ เป็นกลุ่มผิวแพ้ง่ายที่แพ้ได้กับผิวทุกส่วนในร่างกาย และยังเกิดอาการได้ภายในไม่กี่นาทีหลังใช้ เนื่องจากผิวจะมีปฏิกิริยาต่อสารที่สัมผัสไว จนทำให้เกิดการคัน เกิดรอยแดง บวม หลุดลอก ไปจนถึงเกิดสิวอักเสบ และในบางราย ยังสามารถแพ้เครื่องสำอางตัวเดิมได้หากใช้ต่อเนื่องเป็นปี
พกเคล็ดสู้ ให้ผิวชนะ
เพื่อให้ผิวเลี่ยงการแพ้ในทุกรูปแบบ พกเคล็ดเหล่านี้ไว้ทุกครั้งที่ซื่อเครื่องสำอางชิ้นใหม่ จะได้ปลอดภัยไว้ก่อน
1 - หมั่นสังเกตว่าเรามักแพ้สารเคมีชนิดไหน หรือสารธรรมชาติตัวใด อย่าลืมว่าผิวที่แพ้ง่ายนั้นไวมากกับสิ่งเร้า และสามารถแพ้กับสิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดได้ เพื่อที่เราจะได้อ่านฉลากสำรวจส่วนผสมก่อนซื้อ
2 - เพื่อความแน่ใจ สิ่งที่ผิวมักแพ้บ่อยๆ คือน้ำหอม สารกันเสีย กรด AHA ต่างๆ และ แอลกอฮอล์ หากเครื่องสำอางมีสารเหล่านี้อยู่ ก็ควรเลี่ยงไว้ก่อน
3 - ทดสอบก่อนซื้อทุกครั้ง โดยนำมาแต้มในจุดที่ผิวบางเช่นข้อพับแขน รอดูผลสักชั่วโมงก่อนตัดสินใจซื้อ หรือหากเป็นไปได้ ก็ควรรอดูผลภายใน 1 วัน ซึ่งหากเครื่องสำอางชิ้นนั้นๆ มีขนาดทดลองให้นำไปใช้ก่อน ก็ยิ่งเป็นการดี
4 - เลี่ยงสารเคมีไว้ก่อนเป็นการดี แม้ผิวแพ้ง่ายจะแพ้ได้แม้แต่สารธรรมชาติ แต่การเลือกเครื่องสำอางที่กลมกลืนกับกลไกของร่างกาย ก็น่าจะมีความปลอดภัยและเสี่ยงกับผิวน้อยกว่า
5 - ครีมที่ใช้ประจำก็แพ้ได้ หากเราล้างออกไม่สะอาด เช่น ครีมที่เข้มข้นและเกาะผิวมากๆ อย่างครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เพราะฉะนั้นควรให้ความสำคัญกับการล้างหน้าด้วย
6 - เลือกชิ้นที่อ่อนโยน เครื่องสำอางที่มีคำว่า Hypoallergenic, Dermatological Test, Chemical Free, Paraben Free หรืออะไรก็ตามทีที่ เน้นว่ามีความปลอดภัยในการผลิต น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่สร้างความมั่นใจได้ระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ ก็ควรทดสอบก่อนซื้อไม่ต่างกัน
7 - เรียบง่ายเข้าไว้ เครื่องสำอางสมันนี้มีมากมาย แถมยังยั่วใจด้วยชื่อสารเข้าใจยากแต่บอกเราว่าให้ผลฉับไว หากไม่แน่ใจว่าความฉับไวนี้หมายถึงการทำงานที่รุนแรงกับผิวด้วยหรือไม่ ก็ควรเลือกชิ้นที่มีส่วนผสมเรียบง่ายแต่ได้มาตรฐานเข้าไว้ เพราะพื้นฐานของเครื่องสำอางแต่ละชนิดไม่ต่างกัน อยู่ที่ส่วนผสมเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มประสิทธิภาพเท่านั้น
8 - สารสกัดที่แพทย์แนะนำ สำหรับการเลือกเครื่องสำอางสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย มักมีสารธรรมชาติเหล่านี้คือ Chamomile, Licorice และ Aloe Vera ที่พบว่าต้านการแพ้, ต้านการอักเสบ และต้านการระคายเคืองได้

ชอบบทความนี้ กด Like หน้า FanPage ให้ด้วยนะจ๊ะ Thank U.